2/7/59

Brasov and Bran castle,Romania

          รู้จักกันสินะ Dracula นะ วันนี้จะพาไปบุกบ้าน(จริงๆ)ของผีดูดเลือดแห่งตำนานกัน อันที่จริงทริปนี้เป็นทริปที่ต่อจากทริปSinaia เพราะว่าอยู่บนเส้นทางเดียวกัน เราออกจากเมืองSinaia ประมาณบ่ายสี่โมง และถึงเมือง Brasov (บราชอฟ) ประมาณ 6 โมงเย็น ซึ่งตอนนั้นมืดแล้วเพราะเป็นหน้าหนาว ซึ่งที่แรกที่เราไปคือที่พักที่เราจองกันเอาไว้ผ่านอินเตอร์เน็ต อยู่ตรงเซ็นเตอร์ของเมือง เป็นโฮสเทล ราคาประมาณ800บาทต่อคืน เราพักกันสองคนก็หารกันคะถือว่าไม่แพง แต่ว่าไอ่ที่มันพีคที่สุดนี่คือไปถึงแล้วหาทางเข้าไม่เจอเดินวนไปมาประมาณครึ่งชม. สุดท้ายก็ถามตำรวจ โชคดีที่ตำรวจพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ยังไม่จบแค่นั้นพอรู้ที่อยู่แล้วหาทางเข้าไม่เจอ เจอแต่ประตูไม้เก่าๆอันใหญ่พอเปิดเข้าไปมืดสนิทมีถังขยะอันใหญ่ประมาณ 5 ถัง ในใจก็คิดว่ามันไม่ใช่แล้วละมันคงเป็นที่ทิ้งขยะชัวร์ หนทางสุดท้ายคะโทรหาเจ้าของสิ! แต่เขาก็ยืนยังคะว่าที่นี่นะถูกแล้ว ไอ่เราก็ยังไม่กล้าเดินเข้าไปอยู่ดีเขาเลยส่งลูกชายออกมารับ โอโห...เดินออกมาจากอีประตูเก่าๆนั้นจริงด้วย ตอนนั้นเราสองคนนี่มองหน้ากันแบบแค่สบตาก็รู้เลยว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไง แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจเดินตามเขาเข้าไปคะ(พอดีว่าใจง่าย555) แต่พอเข้าไปข้างในก็โคแค่นะ ได้อยู่ชั้นบนสุดด้วย เป็นห้องใต้หลังคาแต่ถ้าเทียบกับราคาถือว่าโอเคมาก
          พอเราเก็บสำพาระทุกอย่างเรียนร้อยแล้วก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว เดินวนไปรอบเซ็นเตอร์ของเมืองรอบนึงก็ยังตัดสินใจไม่ได้อยู่ดีว่าจะกินอะไร เพราะเมื่อกลางวันก็จัดอาหารโรมาเนียนไปแล้ว สุดท้ายเราก็มาจบที่ KFC ต่อด้วยไอศครีมท่ามกลางอากาศติดลบ ยังไม่พอก่อนกลับที่พักจัดมาการองและเค้กไปอีกคนละหลายชิ้น 
          7 โมงเช้าคือเวลาที่เรานัดกันไว้ว่าวันนี้จะขึ้นเขาไปปราสาท Bran หรือที่เรียนกกันว่าปราสาทแดรกคูล่ากัน แต่ประเด็นคือตอนนั้นเราทั้งคู่ไม่มีใครรู้เลยว่าจะไปถึงที่นั่นได้ยังไง จะไปแท็กซี่เหรอ มันก็แพงไปนะตั้ง 600 บาท เราก็เลยถามผู้เชี่ยวชาญเลย ลุง Google นั่นเอง แต่ก็ไม่ค่อยจะได้ข้อมูลมากมายเท่าไหร่รู้แค่ว่ามีรถบัสไปถึง คราวนี้ก็ถึงตาเดาสุ่มตาม GPS แล้ว เราเดินกันประมาณ 5 กม. เพื่อไปขึ้นรถบัสที่ท่า ค่ารสบัสตกคนละประมาณ 70 บาท ถือว่าโอเคมาก สภาพรถบัสก็เหมือนรสบัสตามต่างจังหวัดของไทยเลย เราใช้เวลาบนบัสประมาณ 2 ชม. อันที่จริงเราก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่าต้องลงที่ป้ายไหน แต่ดีที่เดาป้ายลงได้ถูก รถบัสจอดที่หน้าทางเข้าปราสาทเลย พอเดินเข้าไปจะมีตลาดเล็กๆขายของฝาก มีทั้งของกินและของที่ระลึก อารมณ์แบบดอยสุเทพ ข้างหน้าตรงทางเข้ามีบ้านผีสิงให้ได้ลองเข้าไปพิสูจน์ความกล้าเสียด้วย เรื่องค่าตั๋วแอบแพง ปกติ 35 lei  ประมาณ350  บาท ถ้าใช้บัตรนักเรียนจะอยู่ที่ 20 lei หรือ 200 บาท
          ผ่านตู้ขายตั๋วเข้าไปก็เป็นทางลาดชันขึ้นไปยังตัวปราสาท ตัวปราสาทไม่ใหญ่มาก เราจะไม่พูดถึงความอลังการเพราะที่นี่จะออกแนวลึกลับมากกว่า เพราะเป็นบ้านที่ใช้อยู่อาศัยจริงของ แดรกคูล่า หรือขื่อจริงคือ Vlad Tepes (วลาด เสเปช) คนส่วนใหญ่พอพูดถึงแดรกคูล่าจะนึกถึงผีดูดเลือดตลอด จริงๆแล้วตัวจริงของแดรกคูล่าคือบุคคลคนหนึ่งที่พยายามปกป้องดินแดนของตนเองอย่างสุดกำลังถึงแม้ว่าเขาจะต้องฆ่าคนไป 40,000 ถึง 100,000คน ในช่วงชีวิตของเขาก็ตาม บางคนอาจจะมองว่าแดรกคูล่าคือตัวร้ายเสมอ แต่ในบทบาทร้ายนั้นเขามีเหตุผลที่ต้องทำเพื่อปกป้องในสิ่งที่เขารัก เหรียญมีสองด้านเสมอแล้วแต่คนจะมอง และปราสาทของเขาก็สะท้อนตัวตนของเขาได้ดีทีเดียวเพราะมันมีทั้งความสวยงามและความลึกลับอยู่ในตัว ซึ่งชาวยุโรปให้ที่นี่ขึ้นบัญชีไว้ด้วยว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่เฮี้ยนที่สุด และเราเองก็ได้เจอกับตัวมาแล้วเล็กๆน้อยๆ เรื่องเป็นยังไงขอเก็บไว้ให้อึดอัดใจเล่นแล้วกัน ว่าแต่ไปดูของจริงกันดีกว่า
รถไฟไป Brasov มาแล้ว

welcome to Brasov

Night life

มาการองแตกๆหักๆของเรา

อรุณสวัสบราชอฟ

ฟ้าโปร่งใส อากาศหนาวจับใจ

หอนาฬิกาที่เซ็นเตอร์ของเมือง

บัสไง

นี่ไงข้างในบัส เราขึ้นไอ่นี่แหละไปปราสาท

นี่ดอยสุเทพรึเปล่า 

ของแปลกๆเต็มเลย

ทางขึ้นไปปราสาท

วิวนี้มองลงไปจากตรงสุดทางขึ้นไปปราสาท

ส่วนวิวนี้ได้มาจากข้างหลังปราสาท

ประตูทางเข้า

ข้างในเหมือนบ้านธรรมดาๆ

ถ่ายจากชั้น 2 ตอนภูเขาเขียวขจีนี่สวยไม่เบา 
หิมะสุดลูกหูลูกตา

ส่วนนี้คือตรงกลางตัวปราสาท

เหรียญที่ระลึก Vlad Tepes

หลังจากเดินเหนื่อยแล้วก็เติมผลังสักหน่อย ด้วยซุปเนื้อสไตล์โรมาเนียน

กลับมาที่บราชอฟยังไม่ค่ำเราก็เดินต่อซักพัก

ตรอกนี้ยาวไปถึงภูเขา

อาหารเย็นเป็นซูชิ รสชาติไปไม่ค่อยไหวเท่าไหร่

ตื่นมาอีกวัน ไอ่นี่คืออาหารเช้า

แอลกอฮอร์เข้าเลือดแต่เช้า

กินเสร็จก็ต้องมีแบ่งปันบ้าง

จบทริปแล้ว กลับ Bucharest กัน

          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น